สุขภาพตามศาสตร์แพทย์จีน

เคล็ดลับการดูแลสุขภาพตามศาสตร์แพทย์แผนจีน 1

การดูแลสุขภาพอาจดูเป็นเรื่องน่าเบื่อและยุ่งยาก แต่ที่จริงช่วงเวลาเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่ 5-15 นาทีก็ช่วยให้ร่างกายดีขึ้นได้แบบง่าย ๆ เป็นของขวัญวันใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง โดยแบ่งเวลาก่อนหรือหลังกิจกรรมที่คุณทำอยู่แล้วประจำวันแล้วเพิ่มรายละเอียดที่เราแนะนำเข้าไปอีกนิด เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นค่ะ

o ดื่มน้ำ 1 นาทีตอนตื่นนอน เมื่อตื่นนอนแล้วควรดื่มน้ำ 1-2 แก้วเพื่อกระตุ้นการทำงานของอวัยวะและระบบขับถ่าย ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น หากหลัวลืม ให้วางขวดและแก้วน้ำไว้ที่หัวเตียงก่อนนอน เพื่อที่จะดื่มได้ทันทีที่ตื่นนอน

o หัวเราะ 15 นาทีก่อนอาหารเย็น ผลัดกันเล่าเรื่องตลกกับคนในครอบครัวคนละ 1 เรื่องทุกวัน และหัวเราะเต็มเสียงให้ลมผ่านปาก ลำคอ ปอด กระเพาะ ลำไส้ใหญ่-เล็ก จนรู้สึกว่าอวัยวะทุกส่วนเคลื่อนไหว หรือจนรู้สึกเกร็งหน้าท้อง เพื่อให้ร่างกายได้ออกซิเจนมากขึ้น ฟอกปอด ป้องกันการเวียนหัวและอ่อนเพลีย แถมยังเพิ่มความผูกพันในครอบครัวให้แน่นแฟ้นขึ้นด้วย

o เดินเพิ่มขึ้น 15 นาทีก่อนเริ่มงาน เปลี่ยนจากใช้ลิฟต์เป็นเดินขึ้น – ลงบังไดแทน หรือขยับไปจอดรถไกลขึ้นอีกหน่อยเพื่อให้เดินไกลขึ้น โดยเดินให้เร็วขึ้นกว่าปกติ และเพิ่มระยะทางการเดินขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวันหากมีเวลาอาจไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ นอกจากได้ออกกำลังกายแล้วยังได้รับอากาศบริสุทธิ์ด้วย วิธีนี้เหมาะสำหรับคนทำงานที่ต้องนั่งโต๊ะทั้งวัน จะช่วยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวและออกแรงบ้าง

o กะพริบตาทุก 15 นาทีเมื่ออยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ กระพริบตาเพิ่มขึ้น 1 – 2 ครั้งทุก 15 นาที และเมื่อเลิกใช้คอมพิวเตอร์ให้กระพริบตาถี่ ๆ เพื่อให้แก้วตาสะอาดและมีน้ำหล่อเลี้ยงมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ใส่แว่นตาหรือคอนแท็คท์เลนส์ยิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยให้ตาไม่แห้งเกินไป

o ล้างมือ 1 นาทีก่อนเข้าห้องน้ำ มีงานวิจัยพบว่า คนเข้าห้องน้ำโดยไม่ล้างมือมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าคนที่ล้างมือก่อนเข้าห้องน้ำ แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน แต่การล้างมือก่อนเข้าห้องน้ำก็ช่วยให้มือคุณสะอาดจากเชื้อโรคหากต้องสัมผัสกับจุดซ่อนเร้น และไม่ก่อโรคให้ตัวเองแบบไม่ตั้งใจ ที่สำคัญ ออกจากห้องน้ำแล้วอย่าลืมล้างมืออีกครั้ง

o หยุดกิน 5 นาทีก่อนอิ่มจริง ทุกครั้งเวลากินอาหารมื้อหลัก ให้หยุดกินก่อนอิ่มจริง 5 นาที และควรกินอาหารแค่ “เกือบอิ่ม” เท่านั้นกระเพาะอาหารจะได้ไม่ทำงานหนักเกินไป

o ทำความสะอาดฟัน 10 นาทีหลังอาหาร สุขภาพฟันสำคัญมากกว่าที่คิด ดังนั้นควรทำความสะอาดฟันทุกครั้งหลังกินอาหาร โดยเตรียมอุปกรณ์ติดไว้ที่ทำงานเสมอ เช่น แปรงสีฟัน ไหมขัดฟัน หากไม่สะดวก แค่บ้วนปากก็ยังดี

o ดื่มน้ำ 1 นาทีหลังอาหาร 1 ชั่วโมง หากทำงานให้ห้องแอร์ ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 5-8 แก้ว เพราะอากาศแห้ง ร่างกายสูญเสียน้ำได้ง่าย ทำให้ผิวแห้ง ไม่สดใส เป็นตะคริว และรู้สึกอ่อนเพลีย โดยดื่มชั่วโมงละ 1 แก้ว แต่ไม่ควรดื่มน้ำมาก ๆ ก่อนและหลังมื้ออาหารทันที เพราะน้ำจะไปลดประสิทธิภาพของระบบย่อยอาหาร ควรดื่มน้ำหลังมื้ออาหารไปแล้ว 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำย่อยทำงานได้อย่างเต็มที่ และถ้าระหว่างกินอาหารรู้สึกอยากดื่มน้ำ ให้เปลี่ยนเป็นจิบน้ำแทน

o เดินเล่น 5 นาทีระหว่างรดน้ำต้นไม้ ช่วงเวลาเช้าเย็นที่แดดไม่จัดเกินไป อย่าลืมออกไปรดน้ำต้นไม้เพื่อรับวิตามินดากแสงแดดและออกกำลังกายโดยเดินเท้าเปล่าให้เท้าสัมผัสกับสนามหญ้า เม็ดทราย กรวดเล็กๆและละอองน้ำด้วย จะยิ่งรู้สึกสดชื่นขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสและการทรงตัวของฝ่าเท้าอีกด้วย

o นอนสมาธิ 10 นาทีก่อนนอน เมื่อกำลังจะเข้านอนทุกคืน ให้สวดมนต์และนอนหลับตาทำสมาธิไปเรื่อย ๆ สัก 10 นาที หรือจนกว่าจะหลับ โดยนอนหงาย วางมือบนท้อง กำหนดความรู้สึกไว้ที่การกระเพื่อมขึ้นลงของหน้าท้อง จิตใจจะสงบ ช่วยให้หลับสบายและหลับได้ลึกขึ้น

o วางแผน Weekly Planning ทุกคืนวันอาทิตย์ ในแต่ละสัปดาห์จัดลำดับความสำคัญของงานว่าอะไรที่ต้องทำก่อนหลัง นอกจากจะช่วยให้ชีวิตเป็นระบบมากขึ้น ยังทำให้การทำงานง่ายขึ้น ผลพลอยได้คือคุณมีเวลาเหลือพอที่จะทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกด้วย

o นัดหมายงานทุกวันจันทร์ 09.00 น. หากต้องนัดเจรจาธุรกิจควรนัดวันนี้ เวลา 09.00 น. – 10.00 น. เพราะหลังอาหารเช้า 1-2 ชั่วโมง สมองของคุณกำลังได้รับอาหารอย่างเต็มที่ แถมยังได้คิดงานมาคร่าว ๆ แล้วในช่วงสุดสัปดาห์ จึงมีทั้งกำลังสมองและแผนการดีกว่าวันอื่น ๆ ที่สำคัญการนัดหมายในวันเริ่มต้นสัปดาห์จะช่วยให้คุณมีเวลาทำงานนานขึ้นด้วย

o Dinner มื้อเย็นวันพุธและพฤหัสบดี เมื่อต้องออกไปคุยงานต่อตอนเย็นหรือมีนัดdinner ควรเลือกวันพุธหรือพฤหัสบดี เพราะช่วงวันกลางสัปดาห์ร้านอาหารมักว่าง คุยงานสะดวกขึ้น แล้วถ้าคุณอยากไปเที่ยวต่อ คนก็ไม่เยอะเกินไปด้วย

o จดรายการสินค้า 5 นาทีก่อนไปจ่ายตลาด จดรายการสินค้าที่ต้องการเพื่อไม่ให้หลงลืมรายการใด ๆ และกำหนดว่าต้องมีผัก ผลไม้ ตามฤดูกาลที่มีในท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายมีภูมต้านทานกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป

o ออกกำลังกาย 17.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายตื่นตัวเต็มที่ คุณจึงรู้สึกสนุกและมีแรงเป็นพิเศษ การออกกำลังแค่วันละ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น จะทำให้ร่างกายไม่ตื่นตัวเกินไปและหลับสบายด้วย

o อย่านอนตื่นสายในวันเสาร์ อาทิตย์ หากคุณรู้สึกไม่อยากลุกจากเตียงในวันเสาร์แล้วนอนยาวไปเรื่อย ๆ จะทำให้ไม่อยากลุกจากที่นอนในวันอาทิตย์ และส่งผลยาวมาถึงวันจันทร์ด้วย ดังนั้นอย่ามัวแต่นอนบิดขี้เกียจอยู่เลย ลุกขึ้นมาทำเช้า วันเสาร์ อาทิตย์ให้สดใสกันดีกว่าค่ะ

เห็นไหมคะว่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถูกมองข้ามไป ก็อาจกลายเป็นปราการสุขภาพที่ยิ่งใหญ่ของคุณได้เหมือนกัน...จริงมั้ยคะ?

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น